ไอริส พัลลิดา

ด้วยความล้ำค่าเสียจนเหล่าสุคนธกรยกย่องให้เป็น “ทองคำสีน้ำเงิน” หัวน้ำหอมไอริสหาได้ถูกสกัดออกมาจากส่วนดอก ทว่ากลับต้องอาศัย “เหง้า” หรือลำต้นใต้ดิน ซึ่งกินเวลาในการเติบโตจนสามารถทำการเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ถึงสามปี ก่อนจะใช้เวลาอีกสามปีไปกับการผึ่งเหง้าเหล่านี้ให้แห้งสนิท อันถือเป็นช่วงเวลาพัฒนาโมเลกุลกลิ่นภายใน จึงจะนำมาแปรรูปโดยใช้สารทำละลายกร่อนลอกตัวออกมาไว้ในลักษณะของผลึกไขหอมอย่างที่เรียกกันว่า “เนยสกัดไอริส” (iris butter) เพื่อนำไปมาสกัดเป็นหัวน้ำหอมในรูปแบบของเหลวสำหรับใช้ปรุงสูตรน้ำหอมได้ในท้ายสุด

ในศูนย์กลางเนื้อกลิ่นของ Iris Torréfié คือไอริส พัลลิดา ซึ่งทำการเพาะปลูกที่ตุรกี มอบกลิ่นหอมอันสุดละเมียดละไม เต็มไปด้วยแง่มุมสลับซับซ้อน ทั้งกลิ่นแป้ง, กลิ่นไม้ และกลิ่นดอกไวโอเล็ต ด้วยสาเหตุนี้ ในฝรั่งเศสยุคหนึ่ง จึงมีการนำหัว หรือเหง้าไอริสตากแห้งไปบดเป็นแป้งแต่งวิก และแต่งหน้าที่มอบกลิ่นหอมของดอกไวโอเล็ต ถูกเรียกขานว่า “แป้งไวโอเล็ต” และเป็นจุดเริ่มต้นของการเรียกขานกลิ่นหอมแนวนี้ว่ากลิ่นแป้ง (powdery note)

ที่ Guerlain ไอริสเป็นหนึ่งในหัวน้ำหอมสำคัญสำหรับปรุงสูตร Guerlinade และตลอดหลายยุคหลายสมัย ไม้ดอกเลอค่าได้ปรากฏบทบาทในการออกแบบน้ำหอมอันโด่งดังระดับตำนานอย่างที่สุดของ Maison Guerlain หลายต่อหลายครั้ง